ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศหลายรายเริ่มนำรีโมทคอนโทรลมาใช้เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน โดยรีโมทคอนโทรลรุ่นใหม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อควบคุมอุณหภูมิและการตั้งค่าอื่นๆ ของเครื่องปรับอากาศ โดยไม่ใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) ระบุว่าเครื่องปรับอากาศใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเป็นจำนวนมาก การใช้รีโมทคอนโทรลแบบเดิมอาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่ที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำ เพื่อแก้ปัญหานี้ ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศหลายรายจึงหันมาใช้รีโมทคอนโทรลที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์
รีโมทคอนโทรลรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ มีปุ่มขนาดใหญ่ที่กดง่ายแม้แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผลที่ชัดเจนซึ่งแสดงอุณหภูมิปัจจุบันและการตั้งค่าอื่นๆ รีโมทคอนโทรลยังใช้งานได้กับเครื่องปรับอากาศหลายประเภท รวมถึงเครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่าง แบบแยกส่วน และแบบรวมศูนย์
รีโมตคอนโทรลพลังงานแสงอาทิตย์ไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังคุ้มต้นทุนในระยะยาวอีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ราคาแพงซึ่งต้องเปลี่ยนเป็นประจำ นอกจากนี้ รีโมตคอนโทรลยังช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคลดลง
นอกจากรีโมทคอนโทรลที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศบางรายยังเปิดตัวรีโมทคอนโทรลที่ควบคุมด้วยเสียงอีกด้วย รีโมทคอนโทรลที่ควบคุมด้วยเสียงช่วยให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศโดยใช้คำสั่งเสียง เช่น “เปิดเครื่องปรับอากาศ” หรือ “ตั้งอุณหภูมิที่ 72 องศา”
โดยสรุป รีโมตคอนโทรลเครื่องปรับอากาศแบบใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานถือเป็นการพัฒนาที่น่ายินดีในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ รีโมตคอนโทรลเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเงินของผู้บริโภคในระยะยาวอีกด้วย เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึงประโยชน์ของรีโมตคอนโทรลเหล่านี้มากขึ้น เราคาดว่าจะได้เห็นผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศหันมาใช้เทคโนโลยีนี้กันมากขึ้น
เวลาโพสต์: 16 พ.ย. 2566